แก้ไขปัญหาลูกค้าได้ คือหัวใจการทำธุรกิจ 

“การทำธุรกิจ คือการทำอะไรก็ได้ที่ช่วยแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าได้ เราต้องรู้ว่าคนมีปัญหาอะไร แล้วเราสามารถไปแก้ไขปัญหาให้เขาได้หรือไม่ 

คุณพรศักดิ์ เตชะสมบูรณากิจ หรือ คุณลิ้ม เจ้าของแบรนด์รองเท้า TALON และ  Foot Clinic ศูนย์สุขภาพเท้า สั่งตัดแผ่นรองเฉพาะบุคคลและ รองเท้าเพื่อสุขภาพแห่งแรกของไทยได้ย้ำถึงแนวคิดสำคัญในการทำธุรกิจของเขา วันนี้ทีมงาน Pros’share ได้มาเยือนถึงคลีนิคของคุณลิ้มเพื่อชวนพูดคุยถึงเคล็ดลับของความสำเร็จในธุรกิจนี้

จากธุรกิจ OEM สู่การสร้างแบรนด์ของตนเอง

กว่า 50 ปี ของธุรกิจที่ชื่อ เปรมสวัสดิ์ (ทาลอน) โรงงาน OEM ผลิตรองเท้าส่งออก ไปทั่วโลก ทั้งตลาดทวีปยุโรป ตะวันออกกลาง แต่หลัง ๆ คู่แข่งอย่างจีน อินโดนีเซีย เวียดนาม ต้นทุนถูกกว่า การทำแบรนด์ของตัวเองจึงเป็นหนทางปรับตัวที่สำคัญ 

บวกกับปัญหาสุขภาพเท้า เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่คนทั่วไปมักไม่ให้ความสนใจ แต่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่หรือคนแก่ คุณลิ้มคือหนึ่งในคนที่มองเห็นปัญหานี้ จึงตัดสินใจก่อตั้งบริษัท Foot Clinic จำกัด คลีนิคเพื่อสุขภาพเท้าขึ้นมา  

“คิดกันมานานว่าเราจะทำ แบรนด์ แต่ที่บ้านจะคอยค้านด้วยเหตุผลว่า ทำเอาจำนวนเยอะ ๆ ดีกว่าจะมาเสียเวลาทำแค่คู่เดียว เพราะปกติเราจะผลิตเป็นตู้ เขามองว่าเอาเวลาไปหาออร์เดอร์ใหญ่ ๆ ไม่ดีกว่าหรือ แล้วการทำแบรนด์ไม่ใช่ง่ายเพราะต้องลงทุนเรื่องโฆษณา ลงทุนเวลากับการขายปลีก ต้องมีหน้าร้าน ต้องมีสต็อก ส่งออกเราไม่ต้องมีสต็อกอะไรเลย 

แต่จุดเปลี่ยนมาถึงเมื่อออร์เดอร์สั่งผลิตที่เคยมีกลับลดลงเรื่อย ๆ ประกอบกับได้มีออเดอร์สั่งตัดรองเท้าสำหรับคนเป็นโรคเบาหวานมาจากโรงพยาบาล ทำให้เริ่มมองเห็นช่องทางว่ามี ตลาดสำหรับรองเท้าเพื่อสุขภาพ ซี่งแม้จะเป็น Niche Market แต่ลูกค้ากลุ่มนี้มีศักยภาพ และกำลังซื้อมาก ยอมจ่ายเพื่อให้ได้รองเท้าที่ ดี สวย และ ช่วยได้จริง ๆ  ซึ่งที่ผ่านมาโรงงานผลิตรองเท้าแนวสุขภาพให้ต่างประเทศอยู่แล้ว เราน่าจะเอาความรู้นี้มาช่วยคนไทยได้ พี่จึงตัดสินใจ แยกตัวออกมาเปิดบริษัท Foot Clinic เอง และสร้างแบรนด์ โดยเป้าหมายเพื่อช่วยให้คนไทย มีสุขภาพเท้าที่ดีขึ้น เมื่อนึกถึงสุขภาพเท้า ต้องนึกถึง TALON"

เมื่อตัดสินใจสร้างแบรนด์ คำถามต่อมาสำหรับคุณลิ้มคือ ธุรกิจของเราจะช่วยเหลือคนได้อย่างไรบ้าง

“พี่คิดว่าหลักในการทำธุรกิจคือการทำอะไรก็ได้ที่ช่วยคนได้ ช่วยแก้ไขปัญหาให้เขาได้ เราจะสามารถไปแก้ไขปัญหาให้เขาได้หรือไม่ ถ้าเราไปแก้ไขปัญหาให้เขาได้คือเราประสบความสำเร็จ ฉะนั้นสิ่งที่พี่จะภูมิใจมากคือเวลาที่ลูกค้าหรือคนไข้บอกกับเราว่าเราช่วยได้ ใส่รองเท้าเราแล้วหายหรือเดินดีขึ้น ลูกค้าหลายคนเป็นคนแก่นะที่มาหาหมอแล้วลูกพามาซื้อรองเท้า ซื้อให้พ่อแม่บ้าง ให้ตัวเองบ้าง 

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราต้องให้ความสำคัญกับลูกค้า ต้องแก้ไขปัญหาเขาให้ได้ อย่าไปเน้นที่ยอดขายเป็นหลัก เน้นทำอย่างไรให้เขาพอใจแล้วเขาจะกลับมาซื้อเรา แนะนำเราให้คนอื่นต่อ ๆ ไปเอง”

Foot Clinic ไม่ใช่แค่ทำรองเท้าเพื่อสุขภาพ แต่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเท้า ครบวงจร

“ปัญหาเท้าที่เราเจอมีทั้ง เบาหวาน รองช้ำ เท้าแบน กระดูกโปน จนถึง ปวดหลัง ซึ่งรองเท้าสามารถช่วยให้เขายืนหรือเดินได้ดีขึ้น พร้อมหมอเฉพาะทางคอยตรวจดูแลให้ จริงๆแล้วคนไทยมีปัญหาเรื่องเท้าเยอะมาก แต่ไม่รู้ตัวและไม่ค่อยมีคนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เท่าไหร่ ขณะที่ในต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นยุโรป ออสเตรเลีย หรือสหรัฐอเมริกา จะมีหมอเฉพาะทางด้านเท้าคอยรักษาโดยเฉพาะและยังรักษาแพงอีกด้วย”

Foot Clinic ถือได้ว่าเป็นเจ้าแรก ๆ ในเมืองไทยที่ทำครบวงจรเรื่องสุขภาพเท้า เรามีหมอเฉพาะทางเท้า ซึ่งประเทศไทย มีไม่ถึง 10 คน ตรวจด้วยเครื่อง 3D Foot Scan และ Foot Pressure Sensor in motion ที่ทันสมัยจากประเทศอิตาลี สามารถสั่งตัดรองเท้าตามอาการ หรือ ถ้าอาการไม่มากก็สามารถ ใช้ รองเท้าสำเร็จรูป Rebecca Lim’s by TALON ซึ่งเป็นรองเท้าสุขภาพที่คนดังหลาย ๆ คนใช้กัน เช่น Jack Ma เราเป็น Exclusive Distributor นำเข้ามาจากประเทศเกาหลี วัสดุที่ใช้ เป็น Nano Microfiber ดีกว่าหนังแท้ ซึ่งประเทศไทยยังไม่มีใครเอามาใช้ วัสดุนี้จะบาง ใส่แล้วกระชับเท้า ไม่มีกลิ่นเหม็น ล้างน้ำได้ ทำความสะอาดได้ง่าย 

Foot Clinic ได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลหลายแห่ง เช่น โรงพยาบาลเทพธารินทร์ และ โรงพยาบาลกรุงเทพ สำหรับคนไข้ที่หาหมอแล้วมีความจำเป็นต้องตัดรองเท้าเขาก็จะออกมาปรึกษา กับเราและ สามารถสั่งตัด รองเท้าตามอาการได้เลย ปกติที่ รพ อื่น หลังจากคุณหมอวินิจฉัยแล้วว่าต้องใช้รองเท้าสุขภาพ คุณหมอก็จะให้คนไข้ไปหาเอง เพราะ รพ ไม่สามารถสั่งตัดได้ แต่ปัจจุบันนี้ Foot Clinic สามารถแก้ปัญหานี้ให้กับคนไข้ได้โดยตรง เพื่อให้ความสะดวกกับ คนไข้ โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวาน เพื่อลดความเสี่ยงในการถูกตัดนิ้วหรือตัดขา เพราะคนที่เป็นเบาหวานหากไม่ใส่รองเท้าที่เหมาะสม จะมีโอกาสถูกตัดนิ้วตัดขาได้ถึงร้อยละ 83

นอกจากนี้ Foot Clinic ยังร่วมมือกับโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ในการนำรองเท้าพยาบาลให้เจ้าหน้าที่ใช้ขณะปฏิบัติงาน มีรองเท้าสำหรับคนที่มีน้ำหนักตัวเยอะ และคนท้อง เด็กที่มีปัญหาเท้าแบน คนที่คุณพ่อคุณแม่มีปัญหาอยากมาปรึกษาเรื่องเท้า หรือตามหารองเท้าที่ทำให้เดินและยืนได้นานขึ้น 

เริ่มทำการตลาดด้วยตนเอง

“ตอนที่เริ่มทำแบรนด์ของตัวเองแต่ก่อนไม่รู้จักเลยนะ Google Ad, Facebook, Instagram ลองผิดลองถูกมาเรื่อยๆ สุดท้ายมาจบลงตัวที่ Google Ad เนื่องจากคนที่เขามีปัญหาปวดส้น รองช้ำ เท้าแบน หรืออื่น ๆ เมื่อเขาเสิร์ชหาเขาก็จะเจอเรา เราทำ SEO ควบคู่กันจนตอนนี้เราสามารถมาอยู่อันดับหนึ่งหน้าแรกของ Google ได้ นี่ก็เป็นจุดหนึ่งที่เปลี่ยนธุรกิจ OEM มาเป็นธุรกิจ Branding ได้ แต่ก็ยังเพิ่งเริ่มต้นได้ 2-3 ปี”

พัฒนาตนเอง พัฒนาธุรกิจ ไปกับ BNI

“ก่อนหน้านี้รู้จัก BNI มานาน 10 ปีแล้วแต่ไม่เคยเข้าเพราะเราทำแต่ส่งออก เลยไม่รู้จะเข้าไปทำไม แต่พอมาทำแบรนด์ตัวเอง เราต้องทำให้คนรู้จักกับแบรนด์ TALON มากขึ้น ซึ่งก็ได้ผลเพราะเพื่อนๆ สมาชิกมาช่วยประชาสัมพันธ์ ช่วยแนะนำ ให้คำปรึกษา 

ถ้าถามว่าเข้ามาใน BNI ได้ประโยชน์ไหม ถ้าเรื่องยอดขายอาจจะได้ในระดับหนึ่ง แต่พี่ได้เรื่องการพัฒนาตนเองอย่างมาก เพราะว่าเข้ามาแล้วเรา ได้เข้าร่วมประชุมสัมนาที่ให้ความรู้ด้านการทำธุรกิจต่าง ๆ ได้ฟังความรู้จากเจ้าของธุรกิจอื่น ๆ ที่เขามาแลกเปลี่ยนแล้วนำมาต่อยอดมาใช้ในธุรกิจของเรา หลาย ๆ อย่างที่พี่เรียนรู้จาก BNI พี่ก็เอามาใช้ในออฟฟิศ การประชุมพี่ก็ใช้หลักการให้ทุกคนแนะนำตัวเอง หรือการแสดงความชื่นชมแต่ละคนด้วย

ส่วนอื่น ๆ ที่ได้ตามมาก็คือ การพัฒนาธุรกิจ  และ Connection โดยเฉพาะ BNI Prosperity ของเราจะ Active มาก พวกเขาแต่ละคนให้ความร่วมมือ มีอะไรอยากรู้ถามลงไปปุ๊บก็จะมีคนให้คำตอบเสมอ ถือว่าเป็นประโยชน์กับพี่มากในช่วง 2-3 ปีที่พี่เข้ามาอยู่ใน BNI

ก่อนหน้านี้ถ้ามีคนถามพี่ว่าเข้า BNI ดีไหม พี่ก็จะบอกเค้าว่า ให้เข้ามาเยี่ยมชมที่ Chapter ก่อน เรายินดีช่วยเหลือและแนะนำเต็มที่ แต่เราไม่บังคับว่าคุณจะต้องเข้ามา เพราะท้ายที่สุดแล้วคุณต้องเป็นคนตัดสินใจเองว่า BNI เป็นประโยชน์สำหรับธุรกิจคุณหรือไม่ เหมือนผมตอนแรก ๆ ไม่อยากเข้า แต่สุดท้ายเราเห็นว่ามีประโยชน์เราจะก็หาทางเข้ามาเองโดยไม่ต้องมีใครมาเชิญ” คุณลิ้มทิ้งท้าย

QUOTE

1. การทำธุรกิจ คือการทำอะไรก็ได้ที่ช่วยแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าได้ ถ้าเราแก้ไขปัญหาให้เขาได้คือเราประสบความสำเร็จแล้ว

2. อย่าไปเน้นที่ยอดขายมากนัก เน้นว่าทำอย่างไรให้เขาพอใจแล้วเขาจะกลับมาซื้อเรา แนะนำเราให้คนอื่นต่อ ๆ ไปเอง

3. การเข้า BNI ทำให้เราได้พัฒนาตนเองอย่างมาก หลายๆอย่างที่เรียนรู้จาก BNI ก็สามารถนำมาใช้ในองค์กรของเราได้ด้วย”

4. ทุกคนใน BNI Prosperity จะ active มาก มีอะไรอยากรู้ถามลงไปปุ๊บก็จะมีคนให้คำตอบเสมอ