ค่าเงินบาท ส่งผลต่อการนำเข้าและส่งออกสินค้าอย่างไร

  • 26 May 2023


ค่าเงินบาท ส่งผลต่อการนำเข้าและส่งออกสินค้าอย่างไร

 ค่าเงินบาท”  ปัจจุบันนับเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เนื่องจากส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของไทยในภาพรวมเช่น การนำเข้าและการส่งออกสินค้า ซึ่งส่งผลต่อระดับต้นทุนการผลิตและกำไรของผู้ประกอบการ ความสนใจและความเชื่อมั่น ต่อการลงทุนของนักลงทุนอัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ(GDP)เป็นต้น
ค่าเงินบาท” คือจำนวนเงินบาทเมื่อแลกกับสกุลเงินต่างประเทศ หรือเป็นอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงิน 2 สกุลที่ค่าเงินบาทแข็งค่าหรือค่าเงินบาทอ่อนค่า โดยจะเกิดขึ้นพร้อมกันในทิศทางตรงกันข้าม ซึ่งย่อมมีผู้ที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์  ในวันนี้ Lissom Logistics จะมาอธิบายให้ฟังกันว่าค่าเงินบาทแข็งค่าหรือค่าเงินบาทอ่อนนั้น ส่งผลต่อการนำเข้าส่งออกสินค้าอย่างไร ใครได้ประโยชน์และเสียประโยชน์

ค่าเงินบาทแข็งค่าหรือค่าเงินบาทอ่อนค่าได้อย่างไร ?

          ค่าเงินบาทแข็งค่าหรือค่าเงินบาทอ่อนค่า เป็นอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามกลไกตลาดซึ่งจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในขณะนั้น โดยถ้าในตลาดมีความต้องการมาก เงินสกุลนั้นก็จะแข็งค่าขึ้น แต่ในทางกลับกัน ถ้าในตลาดไม่เป็นที่ต้องการ ก็จะทำให้เงินอ่อนค่า ส่งผลกระทบทั้งผู้นำเข้าและส่งออกในทิศทางตรงกันข้าม

1.ค่าเงินบาทแข็งค่า

คือ การใช้เงินบาทน้อยลงในการแลกเงินสกุลอื่นๆ ในจำนวนเท่าเดิม  เช่น จากเดิมเงิน 37 บาท แลกได้ 1 USD วันนี้เงิน 30 บาทแลกได้ 1 USD ดังนั้น ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงิน USD

ผู้ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทแข็งค่า

1. ผู้นำเข้าสินค้าปริมาณเท่าเดิมแต่ต้นทุนการนำเข้าสินค้าลดลง ทำให้กำไรมากขึ้น ราคาสินค้าถูกลง ซึ่งเป็นการใช้เงินบาทน้อยลงในการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน
2. ผู้ซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ต่างประเทศและนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ โดยการใช้เงินบาทน้อยลงในการจ่ายมูลค่าสินค้า
3. ผู้เดินทางไปต่างประเทศหรือนักท่องเที่ยว จะสามารถแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศได้ในจำนวนที่สูงขึ้น และซื้อสินค้าจากต่างประเทศในราคาที่ถูกลง

ผู้เสียประโยชน์จากค่าเงินบาทแข็งค่า

1. ผู้ส่งออก จะมีกำไรที่น้อยลง เพราะเมื่อนำรายได้ที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศมาแลกเป็นเงินบาท จะสามารถแลกเงินบาทได้น้อยลง
2. ผู้ที่ไปทำงานต่างประเทศ เมื่อจะแลกเงินกลับในประเทศ จะสามารถนำสกุลเงินต่างประเทศมาแลกเป็นเงินบาทได้น้อยลง
3. ผู้เดินทางไปต่างประเทศหรือนักท่องเที่ยว จะสามารถแลกเงินบาทได้น้อยลง 

2.ค่าเงินบาทอ่อนค่า

คือการใช้เงินบาทมากขึ้นในการแลกเงินสกุลอื่นๆ ในจำนวนเท่าเดิม เช่น จากเดิมเงิน 30 บาทแลกได้ 1 USD วันนี้เงิน 37 บาทแลกได้ 1 USD ดังนั้น ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงิน USD

ผู้ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า

1. ผู้ส่งออก ต้นทุนและราคาขายสินค้าเท่าเดิม แต่มีกำไรมากขึ้น ซึ่งเป็นการนำเงินสกุลต่างประเทศมาแลกเป็นเงินบาทได้มากขึ้น
2. ผู้ที่ไปทำงานต่างประเทศ เมื่อจะแลกเงินกลับในประเทศ จะสามารถนำสกุลเงินต่างประเทศมาแลกเป็นเงินบาทได้มากขึ้น
3. ผู้เดินทางไปต่างประเทศหรือนักท่องเที่ยว จะสามารถแลกเงินบาทได้มากขึ้น 

ผู้เสียประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า

1. ผู้นำเข้า สินค้าปริมาณเท่าเดิมแต่ต้องเพิ่มต้นทุนการนำเข้าสินค้า ทำให้กำไรน้อยลง ซึ่งเป็นการใช้เงินบาทมากขึ้นในการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน
2. ผู้ซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ต่างประเทศและนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ โดยการใช้เงินบาทมากขึ้นในการจ่ายมูลค่าสินค้า
3. ผู้เดินทางไปต่างประเทศหรือนักท่องเที่ยว จะสามารถแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศได้ในจำนวนที่น้อยลง และซื้อสินค้าจากต่างประเทศในราคาที่แพงขึ้น

           จากที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้น เห็นได้ว่าค่าของเงินบาทส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจเป็นอย่างมากทั้งการนำเข้าและการส่งออก ส่งผลต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งค่าของเงินบาทนั้นสามารถขึ้นหรือลงได้ตามกลไกตลาดทางการเงินของโลก ทั้งนี้คงไม่สามารถบอกได้อย่างแน่ชัดว่าค่าเงินบาทแข็งค่าหรืออ่อนค่า อย่างไหนจะดีกว่าหรือเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจไทยมากกว่ากัน หรือควรจะอยู่ที่ระดับใดเนื่องจากสิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับสภาพของเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
 
ที่มา : https://citly.me/5WqLE
 

Share This :

More News & Events :

See All News & Events

Why Join EASY DIRECTORY ?

Our members enjoy unparalleled business growth. As the world’s largest referral network,
BNI passed over 2 million referrals last year, resulting in more than ฿700 billion in business.