Craft designers' ideas a reality since 1982 ：ศุภฤทธิ์ จรุงชัยนานนท์

โซฟา เฟอร์นิเจอร์ชิ้นสำคัญ ที่เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยเดินดู หรือเลือกซื้อตามห้างสรรพสินค้า แต่เคยรู้สึกไหมว่าต่อให้มีแบบให้เลือกเยอะแค่ไหน ก็ไม่มีตัวไหนที่ถูกใจ บางตัวนุ่มไป บางตัวแข็งไป หรือบางตัวนั่งสบายแต่กลับไม่มีสีที่ชอบ 

Pros’ Share ชวนคุณมารู้จักกับ ทายาทรุ่นที่สองโรงงานผลิตโซฟาส่งออกกว่า 40 ปี คุณก้อง-ศุภฤทธิ์ จรุงชัยนานนท์ กรรมการผู้จัดการบริษัท Lasunya จำกัด  ผู้ที่สร้างตัวตนและต่อยอดธุรกิจภายใต้แนวคิด  Live Flawlessly เลือกโซฟาที่ดีและเหมาะสมที่สุดสำหรับตัวคุณเอง

‘การทำไอเดียของดีไซเนอร์ ให้เป็นโซฟาของจริง คือสิ่งที่เราถนัด เพียงคุณดีไซน์ ส่วนเรื่องความแข็งแรง ฟังก์ชั่น ความนั่งสบาย ความคราฟต์ Lasunya จัดการให้’

40 ปีที่ไร้ตัวตน สู่ Lasunya โซฟา นั่งสบาย งานเนี้ยบ

จากประสบการณ์ 40 ปี ของธุรกิจโรงงาน OEM ผลิตโซฟาส่งออกไปเดนมาร์ก สวีเดน เยอรมนี ญี่ปุ่น แต่ด้วยการแข่งขันด้านต้นทุนการผลิต และต้องการต่อยอดธุรกิจทำให้ ก้อง ตัดสินใจสร้างแบรนด์ Lasunya ขึ้น โดยมาจากชื่อสามพี่น้อง ลลิฐา ศุภฤทธิ์ และชัญญา  ช่วงปีแรกที่ก้องเข้ามาสานต่อธุรกิจจากคุณพ่อ ก้องยังไม่เน้นทำแบรนด์เท่าไร พอมีโอกาสเข้ามาอยู่ใน BNI ก็เริ่มมีโครงการในประเทศมากขึ้น

“เรารับทำ OEM มา 40 ปีแต่กลับไร้ตัวตน ก้องเชื่อด้วยว่าเดี๋ยวนี้ผู้บริโภคซื้อที่แบรนด์มากกว่าสินค้า ยกตัวอย่าง รองเท้าวิ่ง มันก็มีทรงอยู่แค่นี้แต่ทำไมคนถึงเถียงว่าไนกี้ดีที่สุด อดิดาสดีกว่า ผมว่าให้หลับตาใส่ความรู้สึกมันวัดยาก แต่ว่าผมว่าคนซื้อที่แบรนด์”

    ความยากง่ายของการทำ OEM กับแบรนด์ต่างกันพอสมควร OEM คือผลิตสิ่งที่มีดีมานด์อยู่แล้ว ดีไซเนอร์ออกแบบ ส่วนเราทำตามแบบ ด้วยการที่เราส่งออกมันจะต้องเป็นมาตรฐานระดับโลก ถือว่ายากและท้าทายมาก อย่างตอนจะส่งไปเยอรมัน เขามาที่โรงงานแล้วมาดูห้องน้ำในโรงงานกับห้องน้ำออฟฟิศว่าสะอาดเหมือนกันไหม สมัยนั้นห้องน้ำในโรงงานยังไม่ได้ทำดีเท่าไร เขาก็บอก บริษัทยูไม่มีความเท่าเทียมในสิทธิมนุษยชนเลยนะ ไม่ซื้อ แต่ปัจจุบันคือห้องน้ำโรงงานไม่ได้ต่างจากคาเฟ่หรือในออฟฟิศเลย

ความยากอีกอย่างของ OEM คือเรื่องราคา เมื่อลูกค้าซื้อไปขายต่อ ราคาค่อนข้างบี้ ยิ่งงานที่ไม่ได้ใช้สกิลเยอะอย่างโซฟาเหลี่ยมๆ เขาก็จะย้ายฐานไปประเทศที่ค่าแรงถูกกว่าเรื่อยๆ จุดเริ่มต้นโซฟาพวกนี้แถบสแกนดิเนเวีย เริ่มทำก่อน ต่อมาก็มาจ้างโรงงานเราผลิต ช่วงหนึ่งจีนบูมแล้วค่าแรงถูกกว่าเขาก็ย้ายไปจีน ตอนนี้จีนค่าแรงแพงขึ้น ก็ย้ายไปเวียดนาม เดี๋ยวเวียดนามเจริญก็ย้ายประเทศไปอีก” 

พอทำแบรนด์ Lasunya สิ่งแรกที่ก้องทำคือ หาจุดเด่นของตัวเองเพื่อสร้างความแตกต่างจากโรงงานผลิตโซฟาทั่วไป ก้องเล่าให้ฟังว่า “ตอนแรกคิดว่าโรงงานของเราเด่นเรื่องดีไซน์ แต่วันหนึ่ง มีลูกค้าบินตรงมาจากเดนมาร์กบอกเราว่า เขา sourcing โรงงานเย็บหนังมาทั่วโลก แต่ของเราเป็นโรงงานเย็บหนังที่ตรงที่สุดในโลก ห้ามทิ้งจุดนี้ ก็เลยรู้สึกว่าจุดแข็งของเราคือความคราฟต์ อีกอันหนึ่งก็คือความนั่งสบาย เพราะทุกตัวก่อนที่จะวางขายคุณพ่อและผมจะนั่งเทสหมด

    แต่ในส่วนของทำแบรนด์ตอนนี้ ส่วนตัวยังไม่รู้สึกว่าประสบความสำเร็จขนาดนั้น แต่ก็มีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ พอทำแบรนด์ก็เหมือนเรามีเครดิต บางคนรู้จักเราอยู่แล้วก็ไม่ได้มาซื้อเพราะราคาอย่างเดียว บางคนซื้อกับ Lasunya โดยที่แบบไม่ได้เป็นแบบ Lasunya แต่อยากให้ Lasunya คราฟต์ให้ก็มีเหมือนกัน”

Crafting A Legacy of Quality Sofa

    สำหรับก้องแล้ว งานคราฟต์ มีความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง เพราะก้องเชื่อว่า ความแตกต่างคือความโดดเด่นที่บ่งบอกตัวตน ไม่ว่าลูกค้าจะมีไลฟ์สไตล์แบบไหน ก็สามารถคราฟต์ความต้องการ เพื่อให้ทุกการนั่งบ่งบอกความเป็นตัวของลูกค้ามากที่สุด

    “ก่อนเริ่มทำหรือขายเก้าอี้หนึ่งตัว เราต้องถามลูกค้าว่า คุณอยากได้สไตล์ไหน มินิมอล เซน วินเทจ ของในบ้านต้องไปเป็นในธีมเดียวกัน หรือคนที่จ้างอินทีเรีย อินทีเรียจะกำหนดทุกอย่าง หรือบางคนไม่ได้ยึดติดกับสไตล์ ยึดติดวัตถุดิบ ขอเป็นผ้า เป็นหนัง บางคนไม่แคร์เรื่องรูปร่างหน้าตาเลยขอนั่งสบายที่สุด เขามานั่งที่ร้านเลย เอาตัวนี้แหล่ะสบายสุด 

ลูกค้าของเราก็จะมีทั้ง คนซื้อใช้เอง กับโครงการ โครงการก็จะต้องเลือกวัสดุที่เน้นคุณภาพกับความทนทานเป็นหลัก อย่างหนังมีหลายพาร์ท เช่น หนังที่มีความเป็นธรรมชาติสูง แต่จะดูแลรักษายาก น้ำหกปุ๊บซึมเลย อีกแบบหนึ่งคือทนมากแต่ฟีลลิ่งจะไม่ได้แบบธรรมชาติ ส่วนใหญ่โครงการก็จะเลือกเป็นทนทานเป็นหลัก ส่วนลูกค้าที่ใช้ตามบ้าน จะเลือกจากความรู้สึกเป็นหลัก เพราะเขาใช้เองเราก็มั่นใจว่าเขาดูแลได้อยู่แล้ว

ลูกค้าอีกกลุ่มที่สำคัญคือ interior designer หรือสถาปนิก จะมีไอเดียเป็นของตัวเอง ทาง Lasunya ก็มั่นใจเรื่องความคราฟต์ และการทำไอเดียของ interior designer ให้เป็นจริง แค่ดีไซน์มา เรื่องความแข็งแรง ฟังก์ชั่น ความนั่งสบาย ความคราฟต์ เราจัดการให้”

Care Craft  Comfort ：ส่งมอบการอยู่อาศัยแบบไร้ที่ติ 

สโลแกนของ Lasunya ก็คือ Live Flawlessly ทุกๆ คนคงอยากจะเลือกสิ่งที่ดีหรือเหมาะสมที่สุดให้กับตัวเราเอง  Lasunya จึงอยากส่งมอบการอยู่อาศัยแบบไร้ที่ติผ่าน  3C คือ Care Craft และ Comfort 

“Care เราใส่ใจใน life-style ของผู้คน ดังนั้นโซฟาของ Lasunya สามารถ customize ได้ไม่ว่าจะเป็นสี ชนิดของหนัง หรือว่าชนิดของวัสดุหุ้ม จะเป็นผ้าเทียมหรือชนิดของไม้และสีของไม้ แม้กระทั่งบ้านแต่ละหลังก็คืออาจจะมีพื้นที่ไม่เท่ากัน เราก็สามารถทำให้โซฟาตัวนี้พอดีกับบ้านหลังนั้นได้ 

Craft คือใส่ใจในงานฝีมือ แม้กระทั่งในรายละเอียดที่เรามองไม่เห็น และด้วยความที่เป็นแฮนด์เมด คือโซฟาตัวนี้ก็จะเป็นของคุณเพียงแค่คนเดียว 

Comfort ไม่ว่าจะคราฟต์แค่ไหน สวยแค่ไหน เหมาะกับบ้านแค่ไหน แต่ถ้ามันนั่งไม่สบายมันจะไม่มีประโยชน์เลย” 

มาปาร์ตี้แล้วได้ตังค์ ที่ BNI 

    ก้องเป็นสมาชิก BNI Prosperity Thailand มากว่า 4 ปี ได้รับยอดธุรกิจกว่า 23 ล้านบาท  ทุกครั้งที่มีคนถามว่า เข้า BNI แล้วได้อะไร? ก้องไม่ลังเลเลยที่จะตอบว่า 

“โอ้  BNI ให้เยอะเลย ที่ Lasunya เป็นที่รู้จักในประเทศได้เพราะ BNI เลยครับ สมัยที่โรงงานทำแค่ OEM แทบไม่มีไม่รู้จักเราเลย พอมาเข้า BNI ปุ๊บก็มีคนแนะนำเข้าไปที่ Au Bon Pain เลย ก่อนหน้านั้นผมเคยติดต่อเองด้วยนะ ก็เข้าไม่ได้ แต่พอมีคนที่ Au Bon Pain เชื่อใจ เขาก็รีเฟอร์เราเข้าไปแนะนำตัว เข้าไปง่ายขึ้น ปัจจุบันงานโครงการผมก็มาจาก BNI เกือบหมดเลยนะ Au Bon Pain, Novotel,Health Land, Bangkok Glass, Let’s Relax, Greyhound Cafe 

และยิ่งเป็น Prosperity Chapter ก้องรู้สึกว่าเราอยู่แล้วแฮปปี้ เราไม่ได้คิดจะดรอปหรือย้าย chapter เพราะเวลามา Prosperity เหมือนมาปาร์ตี้ เล่นๆ ขำๆ แล้วก็ได้ตังค์ มันเป็นชีวิตที่ลงตัว” ก้องทิ้งท้าย

.

Quote

การทำไอเดียของดีไซเนอร์ ให้เป็นโซฟาของจริง คือสิ่งที่เราถนัด เพียงคุณดีไซน์ ส่วนเรื่องความแข็งแรง ฟังก์ชั่น ความนั่งสบาย ความคราฟต์ Lasunya จัดการให้

เวลามา BNI Prosperity เหมือนมาปาร์ตี้ สนุกด้วยกัน แล้วก็ได้ตังค์ มันเป็นชีวิตที่ลงตัว