ความแตกต่างระหว่าง LINER VESSEL กับ CHARTER VESSEL

  • 21 May 2021


ความแตกต่างระหว่าง
 LINER VESSEL กับ CHARTER VESSEL 

ความแตกต่างระหว่างการขนส่งสินค้าด้วยเรือที่มีตารางเดินเรือประจําและเรือเช่าเหมา มีดังนี้

LINER VESSEL

- ตารางเดินเรือ (SHIPPING SCHEDULE) จะมีตารางการเดินเรือที่แน่นอน ซึ่งเรือจะเข้าเทียบท่าตามวันเวลาที่กําหนด
- ค่าระวางเรือ (FREIGHT CHARGE) Owner เป็นผู้กําหนดจะคิดตาม หน่วย เช่นน้ำหนัก หรือปริมาตรของสินค้า
- ผู้ว่าจ้างคือ Exporter & Importer
- ปริมาณว่าจ้าง ปริมาตรน้ำหนัก หรือจํานวน Container
- DEMURRAGE/DESPATCH มีเฉพาะ Demurrage ของ container ที่คืนตู้ช้า
- เส้นทางเดินเรือ มีกําหนดเส้นทางเดินเรือที่ตายตัว (เหมือนรถโดยสารประจําทางที่จอดตามป้ายที่กําหนด)

CHARTER VESSEL

- ตารางเดินเรือ (SHIPPING SCHEDULE) ไม่มีตารางการเดินเรือที่ แน่นอนCharterer เป็นผู้กําหนด
- ค่าระวางเรือ (FREIGHT CHARGE) Owner เรียกเก็บจาก Charterer แบบเหมาลํา หรือ อัตราต่อวัน
- ผู้ว่าจ้างคือ Charterer
- ปริมาณว่าจ้าง เหมาทั้งลํา หรือบางส่วนของเรือ
- DEMURRAGE/DESPATCH มีสัญญาว่าจ้าง (Charter Party) กําหนดอัตราDemurrage/ Despatch money
- เส้นทางเดินเรือ ไม่มีตารางกําหนดเส้นทางเดินเรือ (เหมือนการเช่าเหมา รถบัส หรือการว่าจ้างรถแท็กซี่)

โดยการเลือกใช้ ถ้าหากผู้นำเข้าส่งออกขนส่งสินค้าแบบเทกอง หรือ แบบตู้คอนเทนเนอร์ทางเราแนะนำควรใช้แบบ Liner มากกว่าแบบ Charter เนื่องจากค่าใช้จ่ายจะคำนวนจากปริมาตรน้ำหนัก หรือจํานวน Container จะทำให้ได้ค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า แต่ถ้าหากมีการขนส่งเยอะหรือขนส่งสินค้าเป็นเที่ยวๆ หรือแบบเร่งด่วน แบบ Charter จะมีประสิทธิภาพมากกว่าเนื่องจากทางผู้ว่าจ้างเรือนั้นสามารถเป็นผู้กำหนดการเดินเรือเองได้ ซึ่งขึ้นอยุ่กับข้อตกลงระหว่างผู้ว่าจ้างกับเรือ

ตารางเดินเรือ (
SHIPPING SCHEDULE)
ตารางเดินเรือมีความสําคัญเป็นอย่างมากต่อการนําเข้าและส่งออก เพราะมีผลโดยตรงต่อการส่งมอบสินค้า ดังนั้นผู้นําเข้าและผู้ส่งออกจึงจําเป็นจะต้องทราบตารางเดินเรือเพื่อที่จะกําหนดระยะเวลาในการสั่งซื้อสินค้าให้ทันต่อความต้องการของลูกค้าหรือให้ทันต่อความต้องการของสายการผลิตในกรณีที่เป็นการนําเข้า หรือกําหนดระยะเวลาในการผลิตหรือรวบรวมสินค้าเพื่อให้ทันต่อเที่ยวเรือที่จะส่งออกก่อนที่ L/C หรือคําสั่งซื้อจะหมดอายุ เป็นต้น

ค่าระวางเรือ (
FREIGHT CHARGE)
เนื่องจากค่าระวางเรือและค่าใช้จ่ายมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ นอกจากนี้ค่าระวางในเส้นทางเดินเรือเดียวกันของสายเดินเรือต่างๆ ก็อาจไม่เท่ากันโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเส้นทางที่มีเรือนอกชมรมเดินเรือวิ่งอยู่ในเส้นทางด้วย ดังนั้นผู้นําเข้าและผู้ส่งออกที่ต้องจ่ายค่าระวางด้วยตนเองจึงควรจะสอบถามค่าระวางจากตัวแทนเรือหลายๆ แห่ง และควรที่จะให้ตัวแทนเรือออกหนังสือเสนอราคาค่าระวางเรือรวมทั้งค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะต้องจ่ายเพิ่มเติมไว้เป็นลายลักษณ์อักษร

โครงสร้างค่าระวางเรือของ
Liner Vessel มีลักษณะแตกต่างจาก Charter Vessel คือ

ค่าระวางของ
Liner Vessel หรือเรือประจําเส้นทาง
ค่าระวางของเรือวิ่งประจําเส้นทาง อัตราจะขึ้นอยู่กับระยะทางเส้นทางเดินเรือและตารางเวลา เรือวิ่งประจําเส้นทางโดยส่วนใหญ่จะเป็นเรือที่เป็นสมาชิกอยู่ในชมรมเดินเรือประจําเส้นทางนั้นๆ เช่น ชมรม
เดินเรือเอเชีย-อเมริกาเหนือ (Asia-North American Eastbound Rate Agreement - ANERA) อัตราก็จะใกล้เคียงกันทั้งหมด แต่ปัจจุบันมีเรือที่อยู่นอกชมรมเดินเรือมากขึ้น เรือเหล่านี้ก็จะมีอัตราค่าระวางน้อยกว่าเรือในชมรมเดินเรือ ค่าระวางของเรือวิ่งประจําเส้นทางประกอบไปด้วย
-  อัตราค่าระวางพื้นฐาน (Basic Freight Rate)
- เงินเก็บเพิ่มค่าปรับอัตราน้ำมันที่เพิ่มขึ้น (Bunker Adjustment Factor Surcharge- BAF)
- เงินเก็บเพิ่มค่าปรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา(Currency Adjustment Factor Surcharge - CAF)
- นอกจากค่าระวางเรือแล้ว บริษัทเรือยังอาจเรียกเก็บค่าระวางพิเศษต่างๆ หรือค่าใช้จ่ายพิเศษที่ต้นทางได้อีกด้วย เช่น
1. ค่าขนถ่ายตู้สินค้าที่ท่าเรือ (Terminal Handling Charge - THC)
2. ค่าท่าคับคั่ง (Congestion Surcharge)
3. ค่าบรรจุสินค้าเข้าคอนเทนเนอร์ (Container Freight Station Charge - CFS Charge)
4. ค่าออกเอกสาร เป็นต้น
5. ซึ่งค่าระวางพิเศษต่างๆ หรือค่าใช้จ่ายพิเศษเหล่านี้บริษัทเรือเรียกเก็บในอัตราค่อนข้างสูง เช่น
-  ค่า CFS Charge สําหรับสินค้าที่ส่งไปสหรัฐอเมริกาและยุโรป เรียกเก็บในอัตรา 4,215 บาทต่อตู้ขนาด 20 ฟุต (อัตรา ณ เดือน สิงหาคม 2543) / 8,430 บาทต่อตู้ขนาด 40 ฟุต
-  ค่า THC สําหรับสินค้าที่ส่งไปสหรัฐอเมริกาและยุโรป เรียกเก็บในอัตรา 2,600 บาทต่อตู้ขนาด 20 ฟุต (อัตรา ณ เดือน สิงหาคม 2543) / 3,900 บาทต่อตู้ขนาด 40 ฟุต
6. ค่าระวางพิเศษหรือค่าใช้จ่ายพิเศษที่เรียกเก็บที่ต้นทางนี้เมื่อเปรียบเทียบกับต้นทุนค่าใช้จ่ายที่บริษัทเรือต้องจ่ายออกไปแล้วนับว่าเป็นเงินที่เรียกเก็บในอัตราที่สูงมาก

ค่าระวางของเรือ Charter หรือเรือจรเช่า
- ไม่มีอัตราแน่นอน เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างเจ้าของเรือกับผู้เช่าเรือ

แหล่งที่มา : https://bit.ly/3u4eDnY

สนใจขอคำปรึกษา อยากได้คำแนะนำ หรือติดปัญหา สามารถติดต่อทีมงาน Lissom Logisticsได้จากช่องทางข้างล่างนี้
TEL : 02-8959771
MOBILE : 091- 4195466
E – MAIL : [email protected]
WEBSITE : http://www.lissom-logistics.co.th/index.php
 

Share This :

More News & Events :

See All News & Events

Why Join EASY DIRECTORY ?

Our members enjoy unparalleled business growth. As the world’s largest referral network,
BNI passed over 2 million referrals last year, resulting in more than ฿700 billion in business.